[fic reborn] การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี - [fic reborn] การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี นิยาย [fic reborn] การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี : Dek-D.com - Writer

    [fic reborn] การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี

    ...เมื่อนภาหายไป ไม่ว่าในใจของใครในตอนนี้ก็คงมีแต่เมฆฝนและลมพายุพัดโหมกระหน่ำ... [เน้นออรินะคะ แต่ก็มีให้แอบจิ้นYกันเล็กน้อย]

    ผู้เข้าชมรวม

    9,655

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    43

    ผู้เข้าชมรวม


    9.65K

    ความคิดเห็น


    28

    คนติดตาม


    111
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ธ.ค. 53 / 17:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     






    ไม่ว่าใครในโลกนี้ก็ต้องตาย

    ...ผมเองก็เช่นกัน...

    แต่ในความเป็นจริงในจิตใจของผมนั้น

    ผมก็ไม่ได้อยากที่จะตายเลย



     

    ...ความสิ้นหวังที่ถาโถมเมื่อคนๆนั้นจากไป...
    ...ความรู้สึกที่กัดกินจิตใจจนแทบจะอยากตายตามท่านไป...
    รุ่นที่สิบครับ...ผมขอโทษ

    โกคุเดระ ฮายาโตะ


    ...เพื่อนรัก...
    ...เพื่อนที่สามารถมอบความอบอุ่นให้ได้เสมอ...
    เพื่อนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้เขาสามารถอยู่ด้วยได้อย่างสบายใจ...
    ...เพื่อนที่เป็นทั้งเจ้านายด้วย ในคนๆเดียวกัน...
    ...สึนะ...

    ยามาโมโตะ ทาเคชิ



    ...เด็กประหลาดในความรู้สึก..
    คนที่แอบชอบน้องสาวสุดที่รักของเขาเอง
    เจ้านายที่ไม่ว่ามองยังไงก็แค่รุ่นน้องกับรุ่นพี่ธรรมดา
    ...ซาวาดะ...

    ซาซางาวะ เรียวเฮ



    ...คนที่ผมคิดว่าไม่เหมาะกับมาเฟียเลยแม้แต่น้อย...
    ...คนที่อ่อนโยนที่สุดที่ผมเคยเจอมา...
    ...สึนะโยชิคุง...

    โรคุโด มุคุโร่


    ...คนที่อบอุ่นและอ่อนโยนมากที่สุด...
    ...คนที่มีพระคุณกับฉันมากที่สุดรองจากท่านมุคุโร่
    ...บอส...

    โคลม โดคุโร่



    ...พี่ชายที่ผมรักที่สุด...
    คนที่คอยดูแลผมมาตลอดโดยไม่ปริปากบ่นอะไร
    คนที่อ่อนโยนที่สุดในโลก
    ...วองโกเล่... พี่ชายที่แสนดีของผม...

    แรมโบ้ โบวีโน่



    ...คนที่ทำให้เขามองอย่างสนใจ...
    ...คนที่คิดเสมอว่าอ่อนแอราวกับสัตว์ตัวเล็กๆ...แต่กลับเข้มแข็งยิ่งกว่าใครๆ...
    ...คนที่ทำให้เขาแปลกใจได้เสมอ...
    ...และคนที่่ทำให้เขากระวนกระวายใจได้ในเวลาเดียวกัน...
    ...คนๆเดียวที่ทำให้น้ำเเข็งอย่างเขาคนนี้เปลี่ยนไป...
    ...สึนะโยชิ...

    ฮิบาริ เคียวยะ





    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       การสูญสิ้นของนภา และการกลับมาที่น่ายินดี

       

      ปัง!

      ร่างเล็กล้มลงท่ามกลางความสับสนและวุ่นวายของเหล่าผู้พิทักษ์ที่ได้ยินเสียงปืน ทุกคนต่างวิ่งกรูกันเข้ามาไม่เว้นแม้กระทั่ง ฮิบาริ เคียวยะ ชายผู้ที่ได้ชื่อว่าเย็นชาที่สุดในหมู่ผู้พิทักษ์

      สึนะ!”

      รุ่นที่สิบครับ! รุ่นที่สิบ!”

      ซาวาดะ!”

      วองโกเล่!”

      บอส!”

      สึนะโยชิคุง!”

      เจ้าสัตว์...กินพืช... ชายหนุ่มอดีตกรรมการคุมกฏที่วิ่งมาถึงตัวของนภาของวองโกเล่ก่อนใครเพื่อนถึงกับชะงัก เมื่อพบรูกระสุนขนาด .25 มม. ทะลุฝังเข้าไปในร่างบางนั้น

      อึ่ก!” สึนะกระอักเลือดออกมาจำนวนหนึ่ง เขาหอบหายใจถี่ขึ้น หัวใจเริ่มเต้นรัวแต่ถึงกระนั้นร่างกายของเขากลับเย็นเฉียบขึ้นเรื่อยๆ

      สึนะ! อดทนไว้นะ!” ผู้พิทักษ์ทั้งหมดรุมล้อมเข้าหาบอสหนุ่มด้วยความเป็นห่วง โรคุโด มุคุโร่กำสามง่ามของตัวเองแน่นขณะมองรอบข้างอย่างระแวง...

      ...ใครกัน?...

      ...ใครกันที่มันกล้าทำเรื่องแบบนี้!!!...

      แม้คำตอบที่รู้ๆกันอยู่จะมีเพียงคนเดียว แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมมันถึงจัดการชายหนุ่มได้ง่ายดายขนาดนี้

      ราวกับ...

      จงใจให้ยิงเอง...

      ควับ!

      ความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ผุดวาบขึ้นในหัวสมอง และดูเหมือนจะไม่ใช่เขาคนเดียวที่คิดแบบนั้น

      ฮิบาริ เคียวยะเองก็คงคิดแบบเดียวกัน ดวงตาคู่สวยจึงได้วาวโรจน์อย่างน่ากลัว...

      ทำไมถึงทำแบบนี้ สึนะโยชิ... จากที่เคยเรียกทั้งชื่อและนามสกุลกลับกลายเป็นเรียกเพียงแค่ชื่อ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขา

      เพราะผมในอดีตจะกลับมาครับ...แค่ก...ผมสัญญา ผมจะกลับมา แม้จะกระอักเลือดเพราะคำพูด แม้ตัวเองจะเจ็บเจียนตายแค่ไหน แต่ร่างบางตรงหน้าของเขาก็ยังยิ้ม...ยิ้มที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่าง

      ...ท้องนภาของวองโกเล่...

      รุ่นที่สิบครับ!” มือขวาของชายหนุ่มตะโกนก้อง เมื่อร่างในอ้อมกอดของฮิบาริเริ่มหายใจแผ่วลงเรื่อยๆ หน้าของบอสหนุ่มซีดขาวราวกับกระดาษ แต่ถึงแม้กระนั้นก็ตามเขากลับมองอย่างแน่วแน่ตรงไปที่ผู้พิทักษ์เมฆาของตัวเอง

      ... สึนะพูดอย่างไร้สุ้มเสียงก่อนจะยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย...ยิ้มที่เหมือนเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริง ยิ้มที่ทำให้ผู้คนรอบข้างยิ้มและหัวเราะตามได้... ยิ้มที่ทำให้แม้แต่น้ำแข็งของชายหนุ่มกรรมการคุมกฏร้าว...

      ตุ๊บ!

      มือของชายหนุ่มตกลงข้างลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง อาการแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนรับรู้ว่า

      ...สึนะจากไปแล้ว...

      รุ่นที่สิบ!!!” โกคุเดระเป็นคนแรกที่ปล่อยโฮอย่างไม่รู้สึกอายใคร เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจตายตามคนที่เขาเคารพรักไปให้ได้เสียตรงนั้น...

      ถ้าผมอยู่เคียงข้างท่าน... ถ้าผมมาเร็วกว่านี้ล่ะก็

      ท่านคงไม่ต้องตาย!

      ผมมันเป็นมือขวาที่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ!!!

       

       

      สึ...นะ... ยามาโมโตะช๊อคค้างอยู่ในท่ายืน...ในใจยังคงไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า...

      ...สึนะ...

      เพื่อนที่เขาสามารถพูดได้เต็มปากว่าอยู่ด้วยแล้วอบอุ่น คนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายในเวลาเดียวกัน...

      แต่สึนะไม่เคยคิดว่าเขาเป็นลูกน้องเลยสักครั้ง...

      ...จากนี้จะไม่มีอีกแล้ว เสียงหัวเราะในยามที่สนุกสนาน อาการตลกๆและบุกคลิกของเจ้าตัวที่ทำให้คนอื่นยิ้มได้... เขาไม่อยากยอมรับว่าเรื่องนี้มันเป็นความจริง...

      ไม่จริงใช่มั้ย? สึนะ? ชายหนุ่มเพ้อราวกับต้องการให้มันเป็นเพียงฝันร้าย และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เพื่อนคนนี้ก็จะยิ้มแล้วถามว่า...

      ฝันร้ายหรอ? ยามาโมโตะ? เขาอยากได้ยินคำนั้น

      ...สึนะ...

       

       

      ซาวาดะ... ชายหนุ่มรุ่นพี่ยืนกำหมัดแน่น ในอกโหวงๆราวกับอะไรซักอย่างหายไป

      ...ซาวาดะ เด็กที่แปลกในความคิดของเขา แต่ก็เป็นคนดีและอ่อนโยนมาก...

      เขารู้ ว่าเจ้านี่แอบชอบน้องสาวของเขา แต่ก็ไม่เคยคิดกีดกันเลยแม้แต่น้อย

      ...เพราะซาวาดะเป็นคนดี...

      แต่...เรื่องนี้มันเกินกว่าที่เขาจะยอมรับจริงๆ

      คนดีๆแบบนี้...ทำไมถึงต้องมาตายด้วย!

       

       

      วองโกเล่...ฮึ่ก! ฮึก!” แรมโบ้ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง หนุ่มน้อยคนเดียวในกลุ่มสะอื้นไห้ไม่เป็นภาษา เขากำชายเสื้อของยามาโมโตะที่ยังคงยืนนิ่งแน่น...

      ...ไม่เคยคิดเลยซักครั้งว่าคนๆนี้คือบอส...

      เพราะเขาคือพี่ชายที่แสนดีที่คอยดูแลมาตลอด

      สึนะไม่เคยรำคาญ...แม้ว่าผมจะทำตัวน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม

      สึนะคอยปกป้องผมทุกอย่าง...ตั้งแต่ผมเด็กๆ

      แล้วทำไม?...ทำไมพี่ชายที่แสนดีของผมต้องมาจากไปแบบนี้ด้วย?...

      ผมสัญญา...ผมจะไม่ทำตัวน่ารำคาญอีกแล้ว...เพราะฉะนั้น...

      กลับมาเถอะนะ...พี่ชายของผม...

       

       

       บอส... เสียงของหญิงสาวกลืนหายไปในลำคอเมื่อมีก้อนสะอึกขึ้นมาแทนที่ ชายหนุ่มผู้ที่มีพระคุณกับเธอรองจากท่านมุคุโร่...ได้จากเธอไปแล้ว...

      ...ทุกๆครั้งที่บอสกุมมือจะรู้สึกอบอุ่น...

      ความอบอุ่นของบอสช่วยชีวิตเธอเอาไว้หลายครั้ง

      เธอชอบบอส...

      แปะ...แปะ...

      สายฝนเริ่มหยดลงมาทั้งๆที่เมื่อครู่ท้องฟ้าแจ่มใส

      ...แต่เมื่อนภาของพวกเธอหายไป...ไม่ว่าจะในจิตใจของใครในตอนนี้ก็คงมีแต่เมฆฝนและลมพายุพัดโหมกระหน่ำ...

      บอสคะ...

      โคลมไม่อยากให้บอสจากไปแบบนี้เลย...

       

       

      ...สึนะโยชิคุง ร่างสูงที่มีตาสองสีมองร่างบางในอ้อมกอดของฮิบาริ เคียวยะอย่างเฉยเมย...ภายนอกเขาอาจไม่แสดงความรู้สึกใดๆแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย

      ...คุณไม่ใช่มาเฟีย...

      เขาเชื่อเช่นนั้นตั้งแต่วันที่สึนะล้างพลังความคิดที่ชั่วร้ายออกไปจากหัวสมองของเขาด้วยไฟดับเครื่องชน

      ...แต่เขาก็ไม่คิดจะยกโทษให้พวกมาเฟียที่ทำโหดร้ายกับเขาหรอกนะ..

      เขาแค่อยากลองเชื่อมั่นในตัวเด็กชายที่เชื่อมั่นในตัวเขาก็เท่านั้น

      ...ความอ่อนโยนที่มีให้อย่างเท่าเทียมกัน...มาถึงแม้กระทั่งกับคนอย่างเขา...

      สึนะโยชิไม่เคยทำเมือนกับว่าเขาเป็นศัตรูและไม่เคยมองเขาว่าแปลกแยก...แม้ว่าสมาชิกคนอื่นจะยังระแวงเขาอยู่ตลอดเวลาก็ตามที...

      เด็กหนุ่มช่วยเขาเอาไว้มากมาย...

      แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรให้...ทำไมคุณถึงต้องจากไปก่อนด้วยครับ?...

      ...สึนะโยชิคุง...

       

       

       

       

       

      ร่างกายที่เย็นเฉียบในอ้อมแขนคือสัมผัสที่บ่งบอกว่านี่คือเรื่องจริง

      สายฝนที่กระหน่ำลงมาช่วยย้ำเตือนให้เขารู้ว่า

      ...เด็กคนนั้นจากไปแล้ว...

      เด็กชายที่เขาคอยมองอย่างสนใจ...และเมื่อมองนานๆไปก็เริ่มเป็นห่วง เริ่มกลัวว่าร่างตรงหน้าจะรับภาระในฐานะบอสไม่ไหว...

      เพราะแบบนั้น...ถึงได้ตอบรับและยอมมาเป็นผู้พิทักษ์ให้

      เพื่อจะได้เฝ้ามองอยู่ห่างๆ...และยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในยามที่จำเป็นเท่านั้น...

      เพราะอยากเห็นการเติบโตจึงได้เฝ้ามอง

      ...แต่เขา...ไม่ได้คิดอยากที่จะเฝ้ามองวาระสุดท้ายของเด็กคนนั้นแบบนี้...

      คำพูดสุดท้ายของคนที่เขามองเสมอว่าเป็นแค่เด็กหนุ่มยังคงก้องอยู่ในหู...แม้จะไม่ได้พูดออกเสียงมา แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ด้วยการอ่านปาก...

      ...และก็มีเพียงเขาคนเดียวที่เห็นข้อความสุดท้ายนั่น...

      คุณฮิบาริ ผมสัญญาครับว่าจะกลับมา...เพราะฉะนั้นคุณเองก็ช่วยรักษาสัญญาด้วยนะครับ

      แล้วก็...อย่าร้องไห้เลยนะครับ... ดวงตาคู่สวยของฮิบาริไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว...ไม่ใช่แค่เพราะคำพูดสุดท้ายของสึนะ...

      ...แต่เพราะเขาร้องไม่ออก...

      เขาไม่อยากจะยอมรับความจริงว่าเด็กที่น่าสนใจคนนี้จากเขาไปแล้ว

      ไม่มีอีกแล้ว...รอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยนจนแทบจะขาดใจนั่น...

      ไม่มีอีกแล้ว...แววตาที่ตื่นตระหนกยามเมื่อโดนเขาแกล้งขู่ ทั้งแววตานั้นและท่าทางที่ทำให้เจ้าตัวดูน่ารักนั่น

      ...มันจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว...

      ชายหนุ่มนึกไปถึงสัญญาที่เขาให้ไว้กับเด็กหนุ่มก่อนหน้านี้

      ช่วยดูแลผมด้วยนะครับ คุณฮิบาริ...ถ้าผมกลับมาและทำตามแผนที่วางไว้ เป็นคำพูดธรรมดาๆที่ก่อนหน้านี้เขาแทบไม่ได้ใส่ใจ...แต่ทำไม ถึงได้รู้สึกสะกิดใจกับคำพูดนั่นนักนะ?...

      ...สึนะโยชิ...นายจะรู้มั้ยว่าตอนนี้มีคนที่อยากตายตามนายไปมากมายแค่ไหน?...

      ...ทำไมนายถึงได้ใจร้ายขนาดนี้กันนะ?...

      ...ใจร้ายจนฉันอยากขย้ำให้ตายเสียจริงๆ...

      ...เจ้าสัตว์กินพืชที่อ่อนแอของฉัน...

       

       

       

      พิธีศพของบอสแห่งวองโกเล่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทุกคนต่างเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่ง...

      ดีโน่มองศิษย์น้องที่น่ารักของตัวเองทั้งน้ำตา...เขาผ่านการร้องไห้มาหลายครั้ง นับตั้งแต่ที่รู้ว่าเด็กชายตัวน้อยๆที่เขามองเหมือนน้องชายมาตลอดต้องจากไปไกลอย่างไม่มีวันหวนกลับ...

      ครูสอนพิเศษของรุ่นที่สิบเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน...แม้จะไม่มีน้ำตา แต่รีบอร์นก็ยืนนิ่ง...ใจจริงไม่อยากยอมรับกับเรื่องทั้งหมดนี่...

      ...แต่ว่า...ตัวเขาเองอีกไม่นานก็คงต้องไปเหมือนกัน..

      เพราะรังสีบ้าๆที่อาบอยู่ทั่วร่างกายจนต้องทรมานนี่...

      สึนะ...แกทิ้งฉันไปก่อนได้ยังไงกัน...

      เป็นแค่เจ้าห่วยสึนะแท้ๆ...ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉันได้นะ... น้ำเสียงของอัลโกบาเล่โนหนุ่มสั่นเครืออย่างไม่อาจจะห้ามได้อีกต่อไป รีบอร์นทรุดนั่งลงข้างๆโลงแก้วที่บรรจุศพของลูกศิษย์เอาไว้ ร่างบางเสมือนว่าหลับไปเพียงแค่นั้น...แต่ทว่า...ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่...

      คุณรีบอร์น ได้เวลาแล้วครับ ผู้พิทักษ์วายุที่ทำหน้าที่เป็นแกนหลักในพิธีนี้เอ่ยเรียกเขาเบาๆอย่างเกรงใจ   รีบอร์นพยักหน้าให้ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่นอนอยู่ในโลงเป็นครั้งสุดท้าย

      ...อีกไม่นานนักหรอก...ฉันก็คงจะตามนายไป...

      ...คราวนี้รอฉันด้วยนะ...

      ...สึนะ...

       

       

      สามปีผ่านไป...

      ฐานทัพวองโกเล่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นป่าช้า...เพราะทุกคนต่างก็เงียบ ไม่มีใครพูดอะไรกันเลยแม้แต่คนเดียวถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ทุกคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง มีเป็นบางครั้งที่ได้ยินเสียงเหมือนประตูเปิด ทุกคนก็จะรีบผวาหันมามองกัน และเมื่อพบว่าไม่ใช่คนๆนั้นที่รอคอยต่างก็แทบจะร้องไห้...

      ...พรุ่งนี้แล้วสินะ ยามาโมโตะเป็นคนเปิดบทสนทนาทำลายความเงียบขึ้นก่อน แล้วก็ได้ผล ทุกคนที่กระจายอยู่ทั่วห้องหันมาสนใจทันที

      ไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ใครไม่ว่างฉันจะขย้ำให้ตาย!” วิธีการพูดแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ฮิบาริ เคียวยะ อดีตกรรมการคุมกฏที่ตอนนี้เป็นหัวหน้ากองกำลังรักษากฏแห่งเมืองนามิโมริพูดขึ้นพร้อมกับเดินออกจากห้องไปเป็นคนแรก...

      ชายหนุ่มเจ้าของฉายา เจ้าบ้าเบสบอล ยิ้มเล็กน้อยกับท่าทางนั่น

      นับจากวันนั้น...ฮิบาริก็ยอมเปิดใจตัวเองขึ้นมาก ราวกับจะสานต่อในส่วนที่สึนะพยายามจะทำให้สำเร็จด้วยตัวเอง...เขายอมรับ หลังจากที่สึนะตาย ทุกคนเปลี่ยนไปมาก

      โกคุเดระ...เอาจริงเอาจังมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็เริ่มอ่อนโยนกับทุกคน

      โคลม...ไม่ค่อยเก็บตัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พยายามจะเข้ากับทุกคน

      แรมโบ้...ไม่ร้องไห้งอแง น้ำตาก็ไม่เคยเห็นอีกเลยหลังจากสึนะตาย

      มุคุโร่...นี่คงจะเป็นคนที่เปลี่ยนไปมากที่สุด พยายามอย่างมากเพื่อให้คนในแฟมิลี่เชื่อใจ จนในที่สุดทุกคนก็ไม่สงสัยเขาอีก

      การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี่เขาพูดได้เต็มปากว่ามันเกิดขึ้นเมื่อสึนะจากไป...

      แต่...ถึงแม้ว่ามันจะดีขึ้นก็ตาม

      แต่ชายหนุ่มกลับคิดถึงร้อยยิ้มที่แสนจะสดใสของเพื่อนรักมากกว่า

      ...ถ้านายกลับมาได้..ให้ทำอะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น...

      ...สึนะ...

       

       

      ที่ฮิบาริรีบร้อนเดินออกจากห้องนั้นมาก็ไม่มีอะไรมาก...

      เขาแค่กำลังจะไปเตรียมสิ่งที่เด็กคนนั้นชอบมากที่สุดก็เท่านั้นเอง....

      ดอกดิฟโฟดิลสีขาวช่องหนึ่งถูกวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่มราวกับว่าคนเอามาให้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องสั่ง

      คุซาคาเบะ เท็ตสึ

      ผมเตรียมไว้ให้คุณเคียวเหมือนทุกปีครับดอกดิฟโฟดิล เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้และ คนรู้ใจ น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรที่มีให้กัน

      สึนะโยชิชอบดอกไม้นี้ที่สุด

      ความหมายของมันหมายถึงแฟมิลี่ของพวกเราครับ...ทุกคนมีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนแท้ที่ไม่มีวันหาได้จากที่ไหนอีกแล้วล่ะครับ... สำหรับตัวเขาเมื่อก่อนมันคงจะไร้สาระ...แต่ตอนนี้ มันเป็นสึ่งที่สึนะโยชิเหลือทิ้งไว้ให้เขา...

      ชายหนุ่มรับดอกไม้จากรองคุซาคาเบะมาถือไว้อย่างทนุถนอม เขาเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงใบหน้าของเด็กหนุ่มที่น่าสนใจคนนั้น...

      ทั้งๆที่ฉันยอมเปิดใจขนาดนี้แล้วแท้ๆ...นายยังไม่ยอมกลับมาอีกหรอ? เสียงพึมพำเบาๆราวพูดกับตัวเองนั้นได้ยินถึงหูคนสนิทที่ยังคงอยู่ข้างๆ คุซาคาเบะแอบคิดเล็กน้อยว่าคุณเคียวของเขาคงจะคิดถึงคุณซาวาดะมากถึงขนาดเพ้อออกมาขนาดนี้

      ...ทั้งๆที่คุณซาวาดะตายไปได้หลายปีแล้ว...

      แต่สำหรับฮิบาริ สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นหมายถึงอย่างอื่น

      ผมจะกลับมาครับ...ผมสัญญา เพราะเด็กคนนั้นไม่เคยผิดสัญญากับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาถึงได้ตั้งใจรออย่างอดทนมาหลายปี...

      ...เมื่อไหร่นายถึงจะกลับมากัน?...

      สินะโยชิ...

       

       

       

       

      End…(Part1)…

      To be continue…



      เอี๊ยด!

      รถสีดำคันงามจอดสนิทอยู่ที่ทางเข้าป่าแห่งหนึ่ง คุซาคะเบะ เท็ตสึที่ทำหน้าที่เป็นผู้ขับขอรออยู่ที่ด้านนอกกับบาจิลที่มาด้วย...

      เหลือแต่เพียงเหล่าผู้พิทักษ์เท่านั้นที่เดินเข้าไปในป่าแห่งนั้น

      ...ป่าที่ นภา ของพวกเขาหลับไหลอยู่...

      โย่! สึนะ ฉันมาหาแล้วนะ ยามาโมโตะเปิดบทสนทนาเป็นคนแรก หลังจากที่พวกเขามายืนเงียบกันหน้าโลงศพของสึนะนานกว่าห้านาทีแล้ว

      ... ยังคงไม่มีใครพูดอะไรออกมาเหมือนเคย ทุกครั้งที่มาเยี่ยมหลุมศพของสึนะ จะไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว มีเพียงยามาโมโตะเท่านั้นที่พยายามจะคุยเล่นกับสึนะที่ไม่ตัวตน และทุกๆคนก็จะยืนนิ่งแบบนี้นานหลายชั่วโมง จนกว่าพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้ายามเย็นไป

      ...ฉันกลับก่อนนะสึนะ แล้วจะมาหาใหม่ ชายหนุ่มที่ตอนนี้มีรอยแผลเป็นที่คางเอ่ยอย่างพยายามคิดว่าเพื่อนรักของเขาแค่หลับไปเท่านั้นให้มากที่สุด...ทั้งๆที่ในความเป็นจริง

      เพื่อนรักของเค้านั้น ได้จากเขาไปแล้วกว่าสามปี...

      ผู้พิทักษ์ทุกคนเดินอย่างเชื่องช้าออกจากป่าที่นภาหลับไหลนั่น พวกเขาไม่มีใครที่สามารถลืมเหตุการณ์ในวันนั้นได้ลง...

      ไม่มีทาง!

        

      ฟุ่บ!

      ร่างสูงวางช่อดอกดิฟโฟดิลสีขาวไว้บนโลงศพอย่างเบามือ เขานั่งยองๆก่อนจะเอามือเคาะโลงเบาๆ

      ป๊อกๆ!

      ฉันรักษาสัญญาทุกอย่างแล้วนะ...เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่นายจะกลับมากัน...สึนะโยชิ? ถ้อยคำราวตัดเพ้อดังออกจากปากชายหนุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เคยรู้สึกรออย่างกระวนกระวายขนาดนี้

      ทำไมถึงกระวนกระวายน่ะหรือ?

      ...ก็คงเพราะไม่เคยมีใครฟื้นขึ้นมาจากความตายได้ซักทีล่ะมั้ง?...

      แต่เขาก็อยากจะเชื่อ...เพราะเด็กคนนั้นบอกว่าจะกลับมา...

      เพราะเขาไม่เคยผิดสัญญา...

      ฮิบาริ เคียวยะ ชายที่ได้ชื่อว่าเลือดเย็นที่สุดในหมู่ผู้พิทักษ์หลับตาลงอย่างร้าวราน...

      ...เพิ่งจะรู้ว่าความทรมานจากการรอคอยเป็นยังไง...

      ...น่าสมเพชจริงๆ...

      ...เมื่อรู้ตัวว่านายสำคัญ ตัวนายก็ไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆฉันแล้ว...

      ...สึนะโยชิ...

       

       

       หลังจากงานเยื่ยมหลุมศพของสึนะที่จัดขึ้นเงียบๆแล้ว ผู้พิทักษ์ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะตอนนี้ เกมล่าวองโกเล่ของเบียคุรันได้เริ่มขึ้นแล้ว พวกเขาไม่มีเวลาเหลือให้มานั่งโศกเศร้าเสียใจเหมือนอย่างที่ผ่านๆมา...

      เพราะแฟมิลี่คือทุกสิ่งของสึนะ...

      พวกเขาจึงต้องปกป้องมันด้วยชีวิต!

      ฮิบาริถูกส่งไปอยู่ที่อิตาลีกับดีโน่ และต่อมาไม่นานก็เริ่มออกเดินทางเพราะต้องการข้อมูลเรื่องกล่อง

      โกคุเดระและยามาโมโตะยังคงอยู่ที่นามิโมริเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก เพราะต่างคนต่างมีงานของตัวเอง...

      โคลมและมุคุโร่หายสาปสูญตอนที่ไปอิตาลี คาดว่าเป็นฝีมือของพวกเบียกคุรันเช่นกัน

      ฟูตะกับเบี้ยงกี้ต้องออกไปหาข่าวเพิ่มเติม

      เรียวเฮต้องไปทำงานกับวาเรีย และทำงานในส่วนที่มุคุโร่ขาดการติดต่อไปด้วย

      แรมโบ้จับคู่กับอี้ผิงดูแลและปกป้องคนในแฟมิลี่

      ไม่มีใครที่ว่างเลยซักคน...

       

       

      จิ๊บๆ!

      ชายหนุ่มผมสีควันบุหรี่เดินดุ่มๆเข้าไปในป่านภาหลับไหล ป่าที่พวกเขาตั้งชื่อเอาไว้ไม่ให้ใครกล้ำกลาย

      บนโลงศพสีดำสนิทที่มีสัญลักษณ์ของวองโกเล่ที่คุ้นตา มีช่อดอกดิฟโฟดิลสีขาววางอยู่ก่อนแล้ว...

      มองดูก็รู้ว่าเป็นดอกไม้สดที่เพิ่งเอามาวาง..

      ...เจ้าฮิบาริแอบมาวางไว้ก่อนตัดหน้าเราอีกแล้ว...

      ชายหนุ่มแอบคิดโมโหเจ้าคนเย็นชานั่นในใจ

      กึกๆ!

      เสียงโลงขยับทำเอาเขาตกใจเล็กน้อย...บ้าน่า! เป็นไปไม่ได้!

      แอ๊ด...

      มือเรียวบางของบอสที่คุ้นเคยแต่เหมือนจะเล็กลงนิดหน่อยโผล่ออกมาจากโลงนั่น

      เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย?

      ...รุ่นที่สิบกลับมาแล้ว!!!...

      เอ๋! อ้าว! ที่นี่ที่ไหนเนี่ย? เสียงที่ยังคงความเยาว์วัยไว้เอ่ยอย่างแปลกใจเล็กน้อย โกคุเดระเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือบอสของเขาเมื่อสิบปีก่อน!

      รุ่นที่สิบครับ!” เขาแทบจะเข้าไปกอด ถ้าไม่ติดที่ว่าจะต้องพูดเรื่องสำคัญให้เสร็จภายในห้านาที

      นี่คงเป็นผลจากบาซูก้าทศวรรษ เรามีเวลาไม่มาก

      เอ๋! โกคุเดระคุงในอีกสิบปีข้างหน้า!” เด็กหนุ่มทำหน้าตกใจเล็กน้อยราวกับกำลังงงในสิ่งที่เกิดขึ้น

      ฟังให้ดีนะครับรุ่นที่สิบ...กลับไปแล้วต้องกำจัดอิริเอะ โชอิจิให้ได้นะครับ ถ้าไม่มีมัน เบียกคุรันคงไม่กำเริบเสิบสานขนาดนี้... เขาพยายามตัดใจความให้สั้นเพื่อความรวดเร็ว

      แต่แล้ว...

      ปุ้ง!

      เวลาก็ไม่เอื้ออำนวย...

      อ้าว! ก็รุ่นที่สิบคนเดิมนี่นา? หรือผมจะคิดไปเอง

      โกคุเดระคุง! โดนบาซูก้าทศวรรษมาเหมือนกันหรอ? ด้านหลังที่หนุ่มน้อยทั้งสองยืนคุยอยู่นั้นมีสายตาคู่หนึ่งที่มองมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

      ซาวาดะ สึนะโยชิ เธอได้ยินมาจากปากรีบอร์นเองว่าเขาตายแล้ว ก่อนที่เจ้าครูพิเศษนั่นจะตายตามเขาไปอีกคน...

      เธอจึงได้เลือกที่จะลงมือก่อนที่แฟมิลี่อื่นจะมาเจอ...ยังไงก็ต้องปกป้องเขาเอาไว้ก่อน...

      ต้องพาเขากลับไป!

       

       

      ~นามิโมริ๊~นามิโมริ~ผืนดินสีเขียวขจี~ม่ายใหญ่ม่ายเล็กกำลังพอดี~นามิโมริ๊~

      เสียงเจ้านกป้อมสีเหลืองอ่อนกำลังร้องเพลงประจำโรงเรียนปลุกให้ชายหนุ่มผู้พิทักษ์เมฆาลุกขึ้นมาขยี้ตาเล็กน้อย...เขาเผลอหลับไปหลังจากที่ไม่ได้นอนมาเกือบสองคืน

      คุณเคียวครับ...มีข้อความกับไฟล์ภาพมาจากวองโกเล่ที่นามิโมริครับ เขากำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับนามิโมริพอดี...

      มีเรื่องอะไรนักหนา?

      กึก!

      ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของชายหนุ่มทำให้เขาต้องสั่งรองคุซาคาเบะอย่างรวดเร็ว

      เร่งวันกลับนามิโมริเดี๋ยวนี้!”

      ภาพของสึนะในสิบปีก่อนที่ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆกับฐานทัพวองโกเล่ในนามิโมริ...ที่ป่านภาหลับไหล...

      กลับมาแล้ว!...นายกลับมาแล้ว!

      สึนะโยชิ!

       

        

      อ้าว! สึนะนี่นา...ดูเหมือนจะตัวเล็กลงนะ!” ยามาโมโตะที่ออกมารับ รัล มิลจิ ออกอาการอึ้งไปเล็กน้อยตอนที่ได้เห็นบอสที่ร่ารัก(?) ของพวกเขาและโกคุเดระที่โดนสับเปลี่ยนกับเมื่อสิบปีก่อนกลับมาด้วย

      หวา! ยามาโมโตะตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลย... ยังคงรอยยิ้มที่อบอุ่นนั่นเอาไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

      ...ไม่ว่าจะเป็นสึนะในตอนไหน...ก็อบอุ่นเสมอ...

      คิดถึงนายจังเลยสึนะ.. เขาพูดออกมาจากใจจริง ไม่ได้ล้อเล่นตามนิสัยแต่อย่างใด

      ...ถึงแล้วล่ะ ทันทีที่เปิดกล่องธาตุพิรุณ พวกเขาก็กลับเข้ามาอยู่ในฐานทัพใต้ดินนามิโมริที่สึนะในอีกสิบปีข้างหน้าเป็นคนสร้างเอาไว้

      โห!... ดูเหมือนเจ้าตัวจะแปลกใจมากที่ตัวเองเป็นคนสั่งให้สร้าง

      ครืด!

      ว่าไง! เจ้าสึนะ!” นี่ก็เป็นอีกคนที่ทำให้ยามาโมโตะแปลกใจก่อนหน้าที่สึนะจะปรากฏตัวเล็กน้อย รีบอร์นในสภาพเด็กทารกถูกส่งมาที่โลกอนาคตนี่อย่างไม่คาดฝันทั้งๆที่ตัวจริงๆในโลกอนาคตนี้นั้น ได้ตายตามลูกศิษย์ที่น่ารักของตัวเองไปหลังจากที่สึนะตายเพียงไม่กี่วัน...

      รีบอร์น!!” เจ้าตัวคงตามหาเจ้าหนูนี่ด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก และสุดท้ายก็คงถูกส่งตามมาเช่นกัน

      พลั่ก!

      ก่อนที่สึนะจะเข้าถึงตัวรีบอร์น ยามาโมโตะก็โดนโกคุเดระในวัยเด็กต่อยเอาอย่างเดือดดาล เนื่องมาจากต้องการคำอธิบายว่าทำไมสึนะถึงได้ไปนอนอยู่ในโลง...

      ตัวแกในอีกสิบปีข้างหน้าก็อยู่ด้วยนะ โกคุเดระ อัลโกบาเลโน่แห่งอรุณเตือนสติเด็กหนุ่มจนเขาชะงัก

      ตัวผมมันมัวทำอะไรอยู่! ทำไมถึงปล่อยให้รุ่นที่สิบโดนลอบทำร้ายได้!” เขาเอาแต่โทษตัวเองจนบรรยากาศรอบข้างน่าอึดอัด สึนะจึงพูดบางสิ่งบางอย่างขึ้น

      แต่ฉันในอดีตยังไม่ตายนี่ โกคุเดระคุง อย่าโทษตัวเองเลย เพราะคำพูดคำเดียวของสึนะ ทำให้คนที่กำลังคลั่งอย่างโกคุเดระถึงกับสงบลงได้...

       

      ต่อมาไม่นาน ตัวยามาโมโตะเองก็ถูกสับเปลี่ยนเช่นกัน...พร้อมๆกับพวกเคียวโกะจังและฮารุที่ถูกส่งมาพร้อมกับแรมโบ้และอี้ผิงในสมัยเด็ก...

      หลังจากนั้นเบี้ยงกี้กับฟูตะที่ออกไปหาข่าวก็กลับมา

      ภาพถ่ายจากฮิเบิร์ด? เด็กหนุ่มเอ่ยถามจางนินีด้วยความแปลกใจหลังจากที่มองไฟล์รูปบนจอ

      ครับ เราจะใช้ฮิเบิร์ดติดต่อในยามจำเป็นครับ เพราะคุณฮิบาริไม่ชอบสุงสิงกับทางนี้

      ...ก็สมเป็นฮิบาริซังล่ะนะ เขาถอนหายใจโดยที่ไม่รู้ว่าทำไม อาจจะเป็นเพราะคิดว่าคนๆนั้นยังคงเหมือนเดิมล่ะมั้ง?

      พวกเขาออกไปตามพวกเคียวโกะจังที่ออกไปข้างนอกเพราะอยากกลับบ้านของตัวเองโดยที่ไม่รู้ถึงสถานการณ์อันตรายนี้...

      ซาวาดะ พวกเราแยกกัน ยามาโมโตะกับโกคุเดระไปที่ศาลเจ้านามิโมริรัลแบ่งงานหลังจากที่ได้รับรายงานจากจางนินีว่ามีความเคลื่อนไหวที่ไม่น่าไว้ใจจากศาลเจ้านามิโมริ

      ครับ!” หลังจากที่แยกกันได้ไม่นาน เด็กหนุ่มทั้งสองก็พบเจอกับศัตรูที่ไม่คาดคิด สายฟ้าฟาด แกมม่า ผู้ที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ของยุคนี้มากกว่าพวกเขามากมายนัก...

      ยามาโมโตะกับโกคุเดระเกิดทะเลาะกันเองโดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุผลส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสถานการณ์ตึงเครียดที่ไม่รู้จัก และสถานที่ๆคุ้นเคยแต่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องนี่!

      แม้จะร่วมมือกันได้ในตอนท้าย แต่ก็ยังคงแพ้...

      เพราะประสบการณ์ไม่เพียงพอ...

      และคนที่ปรากฏกายขึ้นนั้นก็คือ...

      นายทำผิดกฏ ที่กล้ามาทำร้ายคนของนามิโมริ กรรมการคุมกฏที่แสนจะเย็นชาและผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของวองโกเล่

      ฮิบาริ เคียวยะ!

      แม้สายตาจะมองหาคนที่เขาอยากเห็น แต่ก็ยังไม่เสียสมาธิกับศัตรูตรงหน้า

      ...อยู่ที่ไหน?...นายอยู่ที่ไหนกัน?...

      สึนะโยชิ!

      หลังจากปราบแกมม่าลงได้โดยไม่ใช้แหวนวองโกเล่(ในอนาคตโดนทุบทิ้งไปแล้ว) เขาก็ได้พบกับคนที่เขารอ

      แซ่กๆ!

      มาสายนะพวกนาย!” แม้จะสบตากันแค่เพียงแวบเดียว แต่เขาก็ได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่คุ้นเคยนั้นแล้ว...ดวงตาของคนที่เขาเฝ้ารอคอยด้วยความอดทนมานาน...

      ...เพราะคำสัญญา...

      ...ฉันรู้...นายไม่เคยผิดคำสัญญา...

      ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆกับตัวเองขณะที่เดินนำหน้าเหล่าเด็กหนุ่มกลับฐานทัพใต้ดิน จริงๆแล้วเขาอยากจะเข้าไปกอดเด็กหนุ่มให้หายอยาก อย่างที่อยากทำมานาน...แต่คงทำไม่ได้...

      เพราะสึนะโยชิในตอนนี้ไม่ใช่สึนะโยชิในอนาคตที่เขารู้จักดี...

      แต่แค่ได้เห็นหน้าและรู้ว่าเด็กหนุ่มรักษาสัญญา

      แค่นั้นก็เพียงพอแล้วจริงๆ...

      หลังจากนั้นไม่นานโคลม โดคุโร่ก็ถูกสับเปลี่ยนกับตัวเองในอดีตและถูกส่งมาที่โกคุโยแลนด์

      เรียวเฮที่กลับมาจากอิตาลีพร้อมกับพวกวาเรียได้เข้าไปช่วยและพากลับมายังฐานทัพ

      ...ในที่สุด...

      ผู้พิทักษ์ทุกคนก็มารวมกันครบ...

      หลังจากที่นภากลับมา!

       

        

       

       End…(Part2)…

      To be continue to finale part…



      หลังจากเรื่องราวทุกอย่างจบลงเพราะเบียคุรันโดนกำจัด ก็ถึงเวลาที่พวกเขาควรจะได้ นภา ของพวกเขาคืนมา...

      ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ สึนะโยชิคุง หลังจากร่ำลาพวกอิริเอะ โชอิจิและสปาน่ารวมไปถึงเหล่าอัลโกบาเลโน่ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาและเบี้ยงกี้กับฟูตะแล้ว

      เหล่าเด็กหนุ่มก็กลับอดีตที่สงบสุขของพวกเขาไป...

      แล้ว...เหล่าผู้พิทักษ์ในอนาคตที่ควรจะอยู่ก็กลับมา

      แล้ว..

      สึนะล่ะครับ? ยามาโมโตะกับโกคุเดระถามแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน โดยที่ฮิบาริยังคงยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านหลัง

      โคลมอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้พบกับท่านมุคุโร่ที่เธอเคารพรักในร่างจริงของเขาเป็นครั้งแรก

      ถึงแม้จะยังสับสนและงงงวยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเล็กน้อย แต่พวกเขาก็เลือกที่จะทิ้งเรื่องพวกนั้นไว้เบื้องหลัง

      เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นแค่แผนที่บอสของพวกเขาวางไว้ ก็แสดงว่า...

      สึนะโยชิคุงกลับมาก่อนพวกคุณเล็กน้อยครับ คิดว่าคงเดินไปดูที่นั่น อีกเดี๋ยวก็คงกลับมาครับ!”

      ...นายรักษาสัญญาจริงๆด้วย...

      ฮิบาริ เคียวยะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากที่เผชิญเรื่องราวมามากมายรวมไปถึงการต้องทำตามแผนที่เจ้านายจอมยุ่งวางไว้ให้หลังจากที่ทำให้เขาใจหายใจคว่ำไปแล้ว...

      ...หวังว่าพอฉันลืมตา...

      ...นายจะกลับมายืนตรงนี้แล้วนะ?...

      รุ่นที่สิบครับ ฮือ!” เป็นโกคุเดระคนแรกที่เมื่อเห็นสึนะแล้ววิ่งเข้าไปกอดพลางร้องไห้ ตามมาด้วยยามาโมโตะที่ยิ้มอย่างโล่งอก โคลมที่ยืนซบมุคุโร่ร้องไห้ด้วยความดีใจ อี้ผิง ฟูตะและแรมโบ้ยืนกอดกันร้องไห้ เบียงกี้ยืนยิ้มน้อยๆพลางกอดฮารุและเคียวโกะจังเอาไว้

      เด็กหนุ่มยิ้มให้เพื่อนๆเหมือนเคย ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าคนที่เขาคิดว่าคงจะทำให้โกรธมากที่สุด

      ...คนที่เขาทำร้ายไปมากที่สุดด้วยความจำเป็น...

      ...ฮิบาริซัง...

      ผมกลับมาแล้วครับ...ฮิบาริซัง ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตที่คุ้นเคยและรอยยิ้มที่เขาได้รับอยู่เสมอๆ

      ...สึนะโยชิที่เขารู้จักดี...

       

      ...เด็กชายที่เขาคอยมองอย่างสนใจได้กลับมาแล้วตามสัญญา...

      ความอดทนของชายหนุ่มหมดลงในวินาทีที่เด็กหนุ่มยิ้มให้ ฮิบาริดึงตัววองโกเล่หนุ่มเข้าไปกอดท่ามกลางเสียงโวยวายของมือขวาอย่างโกคุเดระและเสียงหัวเราะของยามาโมโตะ



               “ยินดีต้อนรับกลับนะ...สึนะโยชิ

                เสียงที่แผ่วเบาของชายหนุ่มแว่วในโสตประสาทของสึนะ

                ...แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...สำหรับตัวเขาในตอนนี้...

       

      แถมรูปที่น่ารักเล็กน้อย หุหุ>0<//

        จบแล้วค่า! กับฟิคสั้นๆ การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี

                 จริงๆช่วงนี้บ้ารีบอร์นอยู่เลยแอบอู้ฟิคบลีช (ฮา)

                 แหมๆ ก็หัวมันตันนี่คะ=3= เอาเป็นว่าอ่านอันนี้แก้เหงาไปก่อนนะ^^

                 ที่อยากแต่งฉากนี้ก็เพราะรู้สึกว่า ตอนที่หนูทูน่าตายมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากๆ เหมือนทุกอย่างพังลงมาน่ะค่ะ

                 ก็สมกับที่เป็น 'นภา' นี่คะ

                 ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ จะดีใจมากถ้าอ่านเเล้วเม้นท์ติ-ชมกันเยอะๆนะคะ ^^

                 แล้วพบกันใหม่ค่ะ

                KuN 

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "สนุกสุดๆ"

      (แจ้งลบ)

      สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ ... อ่านเพิ่มเติม

      สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ   อ่านน้อยลง

      รุ่นที่1 | 21 เม.ย. 54

      • 7

      • 0

      "ทั้งสนุก ซึ้ง"

      (แจ้งลบ)

      เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ อ่านเพิ่มเติม

      เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ  

      otakumamon | 24 เม.ย. 56

      • 3

      • 0

      ดูทั้งหมด

      คำนิยมล่าสุด

      "ทั้งสนุก ซึ้ง"

      (แจ้งลบ)

      เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ อ่านเพิ่มเติม

      เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ  

      otakumamon | 24 เม.ย. 56

      • 3

      • 0

      "สนุกสุดๆ"

      (แจ้งลบ)

      สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ ... อ่านเพิ่มเติม

      สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ   อ่านน้อยลง

      รุ่นที่1 | 21 เม.ย. 54

      • 7

      • 0

      ดูทั้งหมด

      ความคิดเห็น

      ×