[fic reborn] การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี
...เมื่อนภาหายไป ไม่ว่าในใจของใครในตอนนี้ก็คงมีแต่เมฆฝนและลมพายุพัดโหมกระหน่ำ... [เน้นออรินะคะ แต่ก็มีให้แอบจิ้นYกันเล็กน้อย]
ผู้เข้าชมรวม
9,655
ผู้เข้าชมเดือนนี้
43
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปัง!
ร่างเล็กล้มลงท่ามกลางความสับสนและวุ่นวายของเหล่าผู้พิทักษ์ที่ได้ยินเสียงปืน ทุกคนต่างวิ่งกรูกันเข้ามาไม่เว้นแม้กระทั่ง ฮิบาริ เคียวยะ ชายผู้ที่ได้ชื่อว่าเย็นชาที่สุดในหมู่ผู้พิทักษ์
“สึนะ!”
“รุ่นที่สิบครับ! รุ่นที่สิบ!”
“ซาวาดะ!”
“วองโกเล่!”
“บอส!”
“สึนะโยชิคุง!”
“เจ้าสัตว์...กินพืช...” ชายหนุ่มอดีตกรรมการคุมกฏที่วิ่งมาถึงตัวของนภาของวองโกเล่ก่อนใครเพื่อนถึงกับชะงัก เมื่อพบรูกระสุนขนาด .25 มม. ทะลุฝังเข้าไปในร่างบางนั้น
“อึ่ก!” สึนะกระอักเลือดออกมาจำนวนหนึ่ง เขาหอบหายใจถี่ขึ้น หัวใจเริ่มเต้นรัวแต่ถึงกระนั้นร่างกายของเขากลับเย็นเฉียบขึ้นเรื่อยๆ
“สึนะ! อดทนไว้นะ!” ผู้พิทักษ์ทั้งหมดรุมล้อมเข้าหาบอสหนุ่มด้วยความเป็นห่วง โรคุโด มุคุโร่กำสามง่ามของตัวเองแน่นขณะมองรอบข้างอย่างระแวง...
...ใครกัน?...
...ใครกันที่มันกล้าทำเรื่องแบบนี้!!!...
แม้คำตอบที่รู้ๆกันอยู่จะมีเพียงคนเดียว แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมมันถึงจัดการชายหนุ่มได้ง่ายดายขนาดนี้
ราวกับ...
จงใจให้ยิงเอง...
ควับ!
ความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ผุดวาบขึ้นในหัวสมอง และดูเหมือนจะไม่ใช่เขาคนเดียวที่คิดแบบนั้น
ฮิบาริ เคียวยะเองก็คงคิดแบบเดียวกัน ดวงตาคู่สวยจึงได้วาวโรจน์อย่างน่ากลัว...
“ทำไมถึงทำแบบนี้ สึนะโยชิ...” จากที่เคยเรียกทั้งชื่อและนามสกุลกลับกลายเป็นเรียกเพียงแค่ชื่อ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขา
“เพราะผมในอดีตจะกลับมาครับ...แค่ก...ผมสัญญา ผมจะกลับมา” แม้จะกระอักเลือดเพราะคำพูด แม้ตัวเองจะเจ็บเจียนตายแค่ไหน แต่ร่างบางตรงหน้าของเขาก็ยังยิ้ม...ยิ้มที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่าง
...ท้องนภาของวองโกเล่...
“รุ่นที่สิบครับ!” มือขวาของชายหนุ่มตะโกนก้อง เมื่อร่างในอ้อมกอดของฮิบาริเริ่มหายใจแผ่วลงเรื่อยๆ หน้าของบอสหนุ่มซีดขาวราวกับกระดาษ แต่ถึงแม้กระนั้นก็ตามเขากลับมองอย่างแน่วแน่ตรงไปที่ผู้พิทักษ์เมฆาของตัวเอง
“...” สึนะพูดอย่างไร้สุ้มเสียงก่อนจะยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย...ยิ้มที่เหมือนเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริง ยิ้มที่ทำให้ผู้คนรอบข้างยิ้มและหัวเราะตามได้... ยิ้มที่ทำให้แม้แต่น้ำแข็งของชายหนุ่มกรรมการคุมกฏร้าว...
ตุ๊บ!
มือของชายหนุ่มตกลงข้างลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง อาการแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนรับรู้ว่า
...สึนะจากไปแล้ว...
“รุ่นที่สิบ!!!” โกคุเดระเป็นคนแรกที่ปล่อยโฮอย่างไม่รู้สึกอายใคร เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจตายตามคนที่เขาเคารพรักไปให้ได้เสียตรงนั้น...
ถ้าผมอยู่เคียงข้างท่าน... ถ้าผมมาเร็วกว่านี้ล่ะก็
ท่านคงไม่ต้องตาย!
ผมมันเป็นมือขวาที่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ!!!
“สึ...นะ...” ยามาโมโตะช๊อคค้างอยู่ในท่ายืน...ในใจยังคงไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า...
...สึนะ...
เพื่อนที่เขาสามารถพูดได้เต็มปากว่าอยู่ด้วยแล้วอบอุ่น คนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายในเวลาเดียวกัน...
แต่สึนะไม่เคยคิดว่าเขาเป็นลูกน้องเลยสักครั้ง...
...จากนี้จะไม่มีอีกแล้ว เสียงหัวเราะในยามที่สนุกสนาน อาการตลกๆและบุกคลิกของเจ้าตัวที่ทำให้คนอื่นยิ้มได้... เขาไม่อยากยอมรับว่าเรื่องนี้มันเป็นความจริง...
“ไม่จริงใช่มั้ย? สึนะ?” ชายหนุ่มเพ้อราวกับต้องการให้มันเป็นเพียงฝันร้าย และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เพื่อนคนนี้ก็จะยิ้มแล้วถามว่า...
‘ฝันร้ายหรอ? ยามาโมโตะ?’ เขาอยากได้ยินคำนั้น
...สึนะ...
“ซาวาดะ...” ชายหนุ่มรุ่นพี่ยืนกำหมัดแน่น ในอกโหวงๆราวกับอะไรซักอย่างหายไป
...ซาวาดะ เด็กที่แปลกในความคิดของเขา แต่ก็เป็นคนดีและอ่อนโยนมาก...
เขารู้ ว่าเจ้านี่แอบชอบน้องสาวของเขา แต่ก็ไม่เคยคิดกีดกันเลยแม้แต่น้อย
...เพราะซาวาดะเป็นคนดี...
แต่...เรื่องนี้มันเกินกว่าที่เขาจะยอมรับจริงๆ
คนดีๆแบบนี้...ทำไมถึงต้องมาตายด้วย!
“วองโกเล่...ฮึ่ก! ฮึก!” แรมโบ้ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง หนุ่มน้อยคนเดียวในกลุ่มสะอื้นไห้ไม่เป็นภาษา เขากำชายเสื้อของยามาโมโตะที่ยังคงยืนนิ่งแน่น...
...ไม่เคยคิดเลยซักครั้งว่าคนๆนี้คือบอส...
เพราะเขาคือพี่ชายที่แสนดีที่คอยดูแลมาตลอด
สึนะไม่เคยรำคาญ...แม้ว่าผมจะทำตัวน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม
สึนะคอยปกป้องผมทุกอย่าง...ตั้งแต่ผมเด็กๆ
แล้วทำไม?...ทำไมพี่ชายที่แสนดีของผมต้องมาจากไปแบบนี้ด้วย?...
ผมสัญญา...ผมจะไม่ทำตัวน่ารำคาญอีกแล้ว...เพราะฉะนั้น...
กลับมาเถอะนะ...พี่ชายของผม...
“บอส...” เสียงของหญิงสาวกลืนหายไปในลำคอเมื่อมีก้อนสะอึกขึ้นมาแทนที่ ชายหนุ่มผู้ที่มีพระคุณกับเธอรองจากท่านมุคุโร่...ได้จากเธอไปแล้ว...
...ทุกๆครั้งที่บอสกุมมือจะรู้สึกอบอุ่น...
ความอบอุ่นของบอสช่วยชีวิตเธอเอาไว้หลายครั้ง
เธอชอบบอส...
แปะ...แปะ...
สายฝนเริ่มหยดลงมาทั้งๆที่เมื่อครู่ท้องฟ้าแจ่มใส
...แต่เมื่อนภาของพวกเธอหายไป...ไม่ว่าจะในจิตใจของใครในตอนนี้ก็คงมีแต่เมฆฝนและลมพายุพัดโหมกระหน่ำ...
บอสคะ...
โคลมไม่อยากให้บอสจากไปแบบนี้เลย...
“...สึนะโยชิคุง” ร่างสูงที่มีตาสองสีมองร่างบางในอ้อมกอดของฮิบาริ เคียวยะอย่างเฉยเมย...ภายนอกเขาอาจไม่แสดงความรู้สึกใดๆแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย
...คุณไม่ใช่มาเฟีย...
เขาเชื่อเช่นนั้นตั้งแต่วันที่สึนะล้างพลังความคิดที่ชั่วร้ายออกไปจากหัวสมองของเขาด้วยไฟดับเครื่องชน
...แต่เขาก็ไม่คิดจะยกโทษให้พวกมาเฟียที่ทำโหดร้ายกับเขาหรอกนะ..
เขาแค่อยากลองเชื่อมั่นในตัวเด็กชายที่เชื่อมั่นในตัวเขาก็เท่านั้น
...ความอ่อนโยนที่มีให้อย่างเท่าเทียมกัน...มาถึงแม้กระทั่งกับคนอย่างเขา...
สึนะโยชิไม่เคยทำเมือนกับว่าเขาเป็นศัตรูและไม่เคยมองเขาว่าแปลกแยก...แม้ว่าสมาชิกคนอื่นจะยังระแวงเขาอยู่ตลอดเวลาก็ตามที...
เด็กหนุ่มช่วยเขาเอาไว้มากมาย...
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรให้...ทำไมคุณถึงต้องจากไปก่อนด้วยครับ?...
...สึนะโยชิคุง...
ร่างกายที่เย็นเฉียบในอ้อมแขนคือสัมผัสที่บ่งบอกว่านี่คือเรื่องจริง
สายฝนที่กระหน่ำลงมาช่วยย้ำเตือนให้เขารู้ว่า
...เด็กคนนั้นจากไปแล้ว...
เด็กชายที่เขาคอยมองอย่างสนใจ...และเมื่อมองนานๆไปก็เริ่มเป็นห่วง เริ่มกลัวว่าร่างตรงหน้าจะรับภาระในฐานะบอสไม่ไหว...
เพราะแบบนั้น...ถึงได้ตอบรับและยอมมาเป็นผู้พิทักษ์ให้
เพื่อจะได้เฝ้ามองอยู่ห่างๆ...และยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในยามที่จำเป็นเท่านั้น...
เพราะอยากเห็นการเติบโตจึงได้เฝ้ามอง
...แต่เขา...ไม่ได้คิดอยากที่จะเฝ้ามองวาระสุดท้ายของเด็กคนนั้นแบบนี้...
คำพูดสุดท้ายของคนที่เขามองเสมอว่าเป็นแค่เด็กหนุ่มยังคงก้องอยู่ในหู...แม้จะไม่ได้พูดออกเสียงมา แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ด้วยการอ่านปาก...
...และก็มีเพียงเขาคนเดียวที่เห็นข้อความสุดท้ายนั่น...
‘คุณฮิบาริ ผมสัญญาครับว่าจะกลับมา...เพราะฉะนั้นคุณเองก็ช่วยรักษาสัญญาด้วยนะครับ’
‘แล้วก็...อย่าร้องไห้เลยนะครับ...’ ดวงตาคู่สวยของฮิบาริไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว...ไม่ใช่แค่เพราะคำพูดสุดท้ายของสึนะ...
...แต่เพราะเขาร้องไม่ออก...
เขาไม่อยากจะยอมรับความจริงว่าเด็กที่น่าสนใจคนนี้จากเขาไปแล้ว
ไม่มีอีกแล้ว...รอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยนจนแทบจะขาดใจนั่น...
ไม่มีอีกแล้ว...แววตาที่ตื่นตระหนกยามเมื่อโดนเขาแกล้งขู่ ทั้งแววตานั้นและท่าทางที่ทำให้เจ้าตัวดูน่ารักนั่น
...มันจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว...
ชายหนุ่มนึกไปถึงสัญญาที่เขาให้ไว้กับเด็กหนุ่มก่อนหน้านี้
‘ช่วยดูแลผมด้วยนะครับ คุณฮิบาริ...ถ้าผมกลับมาและทำตามแผนที่วางไว้’ เป็นคำพูดธรรมดาๆที่ก่อนหน้านี้เขาแทบไม่ได้ใส่ใจ...แต่ทำไม ถึงได้รู้สึกสะกิดใจกับคำพูดนั่นนักนะ?...
...สึนะโยชิ...นายจะรู้มั้ยว่าตอนนี้มีคนที่อยากตายตามนายไปมากมายแค่ไหน?...
...ทำไมนายถึงได้ใจร้ายขนาดนี้กันนะ?...
...ใจร้ายจนฉันอยากขย้ำให้ตายเสียจริงๆ...
...เจ้าสัตว์กินพืชที่อ่อนแอของฉัน...
พิธีศพของบอสแห่งวองโกเล่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทุกคนต่างเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่ง...
ดีโน่มองศิษย์น้องที่น่ารักของตัวเองทั้งน้ำตา...เขาผ่านการร้องไห้มาหลายครั้ง นับตั้งแต่ที่รู้ว่าเด็กชายตัวน้อยๆที่เขามองเหมือนน้องชายมาตลอดต้องจากไปไกลอย่างไม่มีวันหวนกลับ...
ครูสอนพิเศษของรุ่นที่สิบเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน...แม้จะไม่มีน้ำตา แต่รีบอร์นก็ยืนนิ่ง...ใจจริงไม่อยากยอมรับกับเรื่องทั้งหมดนี่...
...แต่ว่า...ตัวเขาเองอีกไม่นานก็คงต้องไปเหมือนกัน..
เพราะรังสีบ้าๆที่อาบอยู่ทั่วร่างกายจนต้องทรมานนี่...
สึนะ...แกทิ้งฉันไปก่อนได้ยังไงกัน...
“เป็นแค่เจ้าห่วยสึนะแท้ๆ...ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉันได้นะ...” น้ำเสียงของอัลโกบาเล่โนหนุ่มสั่นเครืออย่างไม่อาจจะห้ามได้อีกต่อไป รีบอร์นทรุดนั่งลงข้างๆโลงแก้วที่บรรจุศพของลูกศิษย์เอาไว้ ร่างบางเสมือนว่าหลับไปเพียงแค่นั้น...แต่ทว่า...ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่...
“คุณรีบอร์น ได้เวลาแล้วครับ” ผู้พิทักษ์วายุที่ทำหน้าที่เป็นแกนหลักในพิธีนี้เอ่ยเรียกเขาเบาๆอย่างเกรงใจ รีบอร์นพยักหน้าให้ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่นอนอยู่ในโลงเป็นครั้งสุดท้าย
...อีกไม่นานนักหรอก...ฉันก็คงจะตามนายไป...
...คราวนี้รอฉันด้วยนะ...
...สึนะ...
สามปีผ่านไป...
ฐานทัพวองโกเล่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นป่าช้า...เพราะทุกคนต่างก็เงียบ ไม่มีใครพูดอะไรกันเลยแม้แต่คนเดียวถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ทุกคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง มีเป็นบางครั้งที่ได้ยินเสียงเหมือนประตูเปิด ทุกคนก็จะรีบผวาหันมามองกัน และเมื่อพบว่าไม่ใช่คนๆนั้นที่รอคอยต่างก็แทบจะร้องไห้...
“...พรุ่งนี้แล้วสินะ” ยามาโมโตะเป็นคนเปิดบทสนทนาทำลายความเงียบขึ้นก่อน แล้วก็ได้ผล ทุกคนที่กระจายอยู่ทั่วห้องหันมาสนใจทันที
“ไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ใครไม่ว่างฉันจะขย้ำให้ตาย!” วิธีการพูดแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ฮิบาริ เคียวยะ อดีตกรรมการคุมกฏที่ตอนนี้เป็นหัวหน้ากองกำลังรักษากฏแห่งเมืองนามิโมริพูดขึ้นพร้อมกับเดินออกจากห้องไปเป็นคนแรก...
ชายหนุ่มเจ้าของฉายา ‘เจ้าบ้าเบสบอล’ ยิ้มเล็กน้อยกับท่าทางนั่น
นับจากวันนั้น...ฮิบาริก็ยอมเปิดใจตัวเองขึ้นมาก ราวกับจะสานต่อในส่วนที่สึนะพยายามจะทำให้สำเร็จด้วยตัวเอง...เขายอมรับ หลังจากที่สึนะตาย ทุกคนเปลี่ยนไปมาก
โกคุเดระ...เอาจริงเอาจังมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็เริ่มอ่อนโยนกับทุกคน
โคลม...ไม่ค่อยเก็บตัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พยายามจะเข้ากับทุกคน
แรมโบ้...ไม่ร้องไห้งอแง น้ำตาก็ไม่เคยเห็นอีกเลยหลังจากสึนะตาย
มุคุโร่...นี่คงจะเป็นคนที่เปลี่ยนไปมากที่สุด พยายามอย่างมากเพื่อให้คนในแฟมิลี่เชื่อใจ จนในที่สุดทุกคนก็ไม่สงสัยเขาอีก
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี่เขาพูดได้เต็มปากว่ามันเกิดขึ้นเมื่อสึนะจากไป...
แต่...ถึงแม้ว่ามันจะดีขึ้นก็ตาม
แต่ชายหนุ่มกลับคิดถึงร้อยยิ้มที่แสนจะสดใสของเพื่อนรักมากกว่า
...ถ้านายกลับมาได้..ให้ทำอะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น...
...สึนะ...
ที่ฮิบาริรีบร้อนเดินออกจากห้องนั้นมาก็ไม่มีอะไรมาก...
เขาแค่กำลังจะไปเตรียมสิ่งที่เด็กคนนั้นชอบมากที่สุดก็เท่านั้นเอง....
ดอกดิฟโฟดิลสีขาวช่องหนึ่งถูกวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่มราวกับว่าคนเอามาให้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องสั่ง
“คุซาคาเบะ เท็ตสึ”
“ผมเตรียมไว้ให้คุณเคียวเหมือนทุกปีครับ” ดอกดิฟโฟดิล เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้และ คนรู้ใจ น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรที่มีให้กัน
สึนะโยชิชอบดอกไม้นี้ที่สุด
‘ความหมายของมันหมายถึงแฟมิลี่ของพวกเราครับ...ทุกคนมีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนแท้ที่ไม่มีวันหาได้จากที่ไหนอีกแล้วล่ะครับ...’ สำหรับตัวเขาเมื่อก่อนมันคงจะไร้สาระ...แต่ตอนนี้ มันเป็นสึ่งที่สึนะโยชิเหลือทิ้งไว้ให้เขา...
ชายหนุ่มรับดอกไม้จากรองคุซาคาเบะมาถือไว้อย่างทนุถนอม เขาเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงใบหน้าของเด็กหนุ่มที่น่าสนใจคนนั้น...
“ทั้งๆที่ฉันยอมเปิดใจขนาดนี้แล้วแท้ๆ...นายยังไม่ยอมกลับมาอีกหรอ?” เสียงพึมพำเบาๆราวพูดกับตัวเองนั้นได้ยินถึงหูคนสนิทที่ยังคงอยู่ข้างๆ คุซาคาเบะแอบคิดเล็กน้อยว่าคุณเคียวของเขาคงจะคิดถึงคุณซาวาดะมากถึงขนาดเพ้อออกมาขนาดนี้
...ทั้งๆที่คุณซาวาดะตายไปได้หลายปีแล้ว...
แต่สำหรับฮิบาริ สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นหมายถึงอย่างอื่น
‘ผมจะกลับมาครับ...ผมสัญญา’ เพราะเด็กคนนั้นไม่เคยผิดสัญญากับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาถึงได้ตั้งใจรออย่างอดทนมาหลายปี...
...เมื่อไหร่นายถึงจะกลับมากัน?...
สินะโยชิ...
End
(Part1)
To be continue
เอี๊ยด!
รถสีดำคันงามจอดสนิทอยู่ที่ทางเข้าป่าแห่งหนึ่ง คุซาคะเบะ เท็ตสึที่ทำหน้าที่เป็นผู้ขับขอรออยู่ที่ด้านนอกกับบาจิลที่มาด้วย...
เหลือแต่เพียงเหล่าผู้พิทักษ์เท่านั้นที่เดินเข้าไปในป่าแห่งนั้น
...ป่าที่ ‘นภา’ ของพวกเขาหลับไหลอยู่...
“โย่! สึนะ ฉันมาหาแล้วนะ” ยามาโมโตะเปิดบทสนทนาเป็นคนแรก หลังจากที่พวกเขามายืนเงียบกันหน้าโลงศพของสึนะนานกว่าห้านาทีแล้ว
“...” ยังคงไม่มีใครพูดอะไรออกมาเหมือนเคย ทุกครั้งที่มาเยี่ยมหลุมศพของสึนะ จะไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว มีเพียงยามาโมโตะเท่านั้นที่พยายามจะคุยเล่นกับสึนะที่ไม่ตัวตน และทุกๆคนก็จะยืนนิ่งแบบนี้นานหลายชั่วโมง จนกว่าพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้ายามเย็นไป
“...ฉันกลับก่อนนะสึนะ แล้วจะมาหาใหม่” ชายหนุ่มที่ตอนนี้มีรอยแผลเป็นที่คางเอ่ยอย่างพยายามคิดว่าเพื่อนรักของเขาแค่หลับไปเท่านั้นให้มากที่สุด...ทั้งๆที่ในความเป็นจริง
เพื่อนรักของเค้านั้น ได้จากเขาไปแล้วกว่าสามปี...
ผู้พิทักษ์ทุกคนเดินอย่างเชื่องช้าออกจากป่าที่นภาหลับไหลนั่น พวกเขาไม่มีใครที่สามารถลืมเหตุการณ์ในวันนั้นได้ลง...
ไม่มีทาง!
ฟุ่บ!
ร่างสูงวางช่อดอกดิฟโฟดิลสีขาวไว้บนโลงศพอย่างเบามือ เขานั่งยองๆก่อนจะเอามือเคาะโลงเบาๆ
ป๊อกๆ!
“ฉันรักษาสัญญาทุกอย่างแล้วนะ...เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่นายจะกลับมากัน...สึนะโยชิ?” ถ้อยคำราวตัดเพ้อดังออกจากปากชายหนุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เคยรู้สึกรออย่างกระวนกระวายขนาดนี้
ทำไมถึงกระวนกระวายน่ะหรือ?
...ก็คงเพราะไม่เคยมีใครฟื้นขึ้นมาจากความตายได้ซักทีล่ะมั้ง?...
แต่เขาก็อยากจะเชื่อ...เพราะเด็กคนนั้นบอกว่าจะกลับมา...
เพราะเขาไม่เคยผิดสัญญา...
ฮิบาริ เคียวยะ ชายที่ได้ชื่อว่าเลือดเย็นที่สุดในหมู่ผู้พิทักษ์หลับตาลงอย่างร้าวราน...
...เพิ่งจะรู้ว่าความทรมานจากการรอคอยเป็นยังไง...
...น่าสมเพชจริงๆ...
...เมื่อรู้ตัวว่านายสำคัญ ตัวนายก็ไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆฉันแล้ว...
...สึนะโยชิ...
เพราะแฟมิลี่คือทุกสิ่งของสึนะ...
พวกเขาจึงต้องปกป้องมันด้วยชีวิต!
ฮิบาริถูกส่งไปอยู่ที่อิตาลีกับดีโน่ และต่อมาไม่นานก็เริ่มออกเดินทางเพราะต้องการข้อมูลเรื่องกล่อง
โกคุเดระและยามาโมโตะยังคงอยู่ที่นามิโมริเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก เพราะต่างคนต่างมีงานของตัวเอง...
โคลมและมุคุโร่หายสาปสูญตอนที่ไปอิตาลี คาดว่าเป็นฝีมือของพวกเบียกคุรันเช่นกัน
ฟูตะกับเบี้ยงกี้ต้องออกไปหาข่าวเพิ่มเติม
เรียวเฮต้องไปทำงานกับวาเรีย และทำงานในส่วนที่มุคุโร่ขาดการติดต่อไปด้วย
แรมโบ้จับคู่กับอี้ผิงดูแลและปกป้องคนในแฟมิลี่
ไม่มีใครที่ว่างเลยซักคน...
จิ๊บๆ!
ชายหนุ่มผมสีควันบุหรี่เดินดุ่มๆเข้าไปในป่า ‘นภาหลับไหล’ ป่าที่พวกเขาตั้งชื่อเอาไว้ไม่ให้ใครกล้ำกลาย
บนโลงศพสีดำสนิทที่มีสัญลักษณ์ของวองโกเล่ที่คุ้นตา มีช่อดอกดิฟโฟดิลสีขาววางอยู่ก่อนแล้ว...
มองดูก็รู้ว่าเป็นดอกไม้สดที่เพิ่งเอามาวาง..
...เจ้าฮิบาริแอบมาวางไว้ก่อนตัดหน้าเราอีกแล้ว...
ชายหนุ่มแอบคิดโมโหเจ้าคนเย็นชานั่นในใจ
กึกๆ!
เสียงโลงขยับทำเอาเขาตกใจเล็กน้อย...บ้าน่า! เป็นไปไม่ได้!
แอ๊ด...
มือเรียวบางของบอสที่คุ้นเคยแต่เหมือนจะเล็กลงนิดหน่อยโผล่ออกมาจากโลงนั่น
เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย?
...รุ่นที่สิบกลับมาแล้ว!!!...
“เอ๋! อ้าว! ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?” เสียงที่ยังคงความเยาว์วัยไว้เอ่ยอย่างแปลกใจเล็กน้อย โกคุเดระเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือบอสของเขาเมื่อสิบปีก่อน!
“รุ่นที่สิบครับ!” เขาแทบจะเข้าไปกอด ถ้าไม่ติดที่ว่าจะต้องพูดเรื่องสำคัญให้เสร็จภายในห้านาที
นี่คงเป็นผลจากบาซูก้าทศวรรษ เรามีเวลาไม่มาก
“เอ๋! โกคุเดระคุงในอีกสิบปีข้างหน้า!” เด็กหนุ่มทำหน้าตกใจเล็กน้อยราวกับกำลังงงในสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฟังให้ดีนะครับรุ่นที่สิบ...กลับไปแล้วต้องกำจัดอิริเอะ โชอิจิให้ได้นะครับ ถ้าไม่มีมัน เบียกคุรันคงไม่กำเริบเสิบสานขนาดนี้...” เขาพยายามตัดใจความให้สั้นเพื่อความรวดเร็ว
แต่แล้ว...
ปุ้ง!
เวลาก็ไม่เอื้ออำนวย...
“อ้าว! ก็รุ่นที่สิบคนเดิมนี่นา? หรือผมจะคิดไปเอง”
“โกคุเดระคุง! โดนบาซูก้าทศวรรษมาเหมือนกันหรอ?” ด้านหลังที่หนุ่มน้อยทั้งสองยืนคุยอยู่นั้นมีสายตาคู่หนึ่งที่มองมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“ซาวาดะ สึนะโยชิ” เธอได้ยินมาจากปากรีบอร์นเองว่าเขาตายแล้ว ก่อนที่เจ้าครูพิเศษนั่นจะตายตามเขาไปอีกคน...
เธอจึงได้เลือกที่จะลงมือก่อนที่แฟมิลี่อื่นจะมาเจอ...ยังไงก็ต้องปกป้องเขาเอาไว้ก่อน...
ต้องพาเขากลับไป!
~นามิโมริ๊~นามิโมริ~ผืนดินสีเขียวขจี~ม่ายใหญ่ม่ายเล็กกำลังพอดี~นามิโมริ๊~
เสียงเจ้านกป้อมสีเหลืองอ่อนกำลังร้องเพลงประจำโรงเรียนปลุกให้ชายหนุ่มผู้พิทักษ์เมฆาลุกขึ้นมาขยี้ตาเล็กน้อย...เขาเผลอหลับไปหลังจากที่ไม่ได้นอนมาเกือบสองคืน
“คุณเคียวครับ...มีข้อความกับไฟล์ภาพมาจากวองโกเล่ที่นามิโมริครับ” เขากำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับนามิโมริพอดี...
มีเรื่องอะไรนักหนา?
กึก!
ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของชายหนุ่มทำให้เขาต้องสั่งรองคุซาคาเบะอย่างรวดเร็ว
“เร่งวันกลับนามิโมริเดี๋ยวนี้!”
ภาพของสึนะในสิบปีก่อนที่ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆกับฐานทัพวองโกเล่ในนามิโมริ...ที่ป่านภาหลับไหล...
กลับมาแล้ว!...นายกลับมาแล้ว!
สึนะโยชิ!
“อ้าว! สึนะนี่นา...ดูเหมือนจะตัวเล็กลงนะ!” ยามาโมโตะที่ออกมารับ รัล มิลจิ ออกอาการอึ้งไปเล็กน้อยตอนที่ได้เห็นบอสที่ร่ารัก(?) ของพวกเขาและโกคุเดระที่โดนสับเปลี่ยนกับเมื่อสิบปีก่อนกลับมาด้วย
“หวา! ยามาโมโตะตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลย...” ยังคงรอยยิ้มที่อบอุ่นนั่นเอาไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
...ไม่ว่าจะเป็นสึนะในตอนไหน...ก็อบอุ่นเสมอ...
“คิดถึงนายจังเลยสึนะ..” เขาพูดออกมาจากใจจริง ไม่ได้ล้อเล่นตามนิสัยแต่อย่างใด
“...ถึงแล้วล่ะ” ทันทีที่เปิดกล่องธาตุพิรุณ พวกเขาก็กลับเข้ามาอยู่ในฐานทัพใต้ดินนามิโมริที่สึนะในอีกสิบปีข้างหน้าเป็นคนสร้างเอาไว้
“โห!...” ดูเหมือนเจ้าตัวจะแปลกใจมากที่ตัวเองเป็นคนสั่งให้สร้าง
ครืด!
“ว่าไง! เจ้าสึนะ!” นี่ก็เป็นอีกคนที่ทำให้ยามาโมโตะแปลกใจก่อนหน้าที่สึนะจะปรากฏตัวเล็กน้อย รีบอร์นในสภาพเด็กทารกถูกส่งมาที่โลกอนาคตนี่อย่างไม่คาดฝันทั้งๆที่ตัวจริงๆในโลกอนาคตนี้นั้น ได้ตายตามลูกศิษย์ที่น่ารักของตัวเองไปหลังจากที่สึนะตายเพียงไม่กี่วัน...
“รีบอร์น!!” เจ้าตัวคงตามหาเจ้าหนูนี่ด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก และสุดท้ายก็คงถูกส่งตามมาเช่นกัน
พลั่ก!
ก่อนที่สึนะจะเข้าถึงตัวรีบอร์น ยามาโมโตะก็โดนโกคุเดระในวัยเด็กต่อยเอาอย่างเดือดดาล เนื่องมาจากต้องการคำอธิบายว่าทำไมสึนะถึงได้ไปนอนอยู่ในโลง...
“ตัวแกในอีกสิบปีข้างหน้าก็อยู่ด้วยนะ โกคุเดระ” อัลโกบาเลโน่แห่งอรุณเตือนสติเด็กหนุ่มจนเขาชะงัก
“ตัวผมมันมัวทำอะไรอยู่! ทำไมถึงปล่อยให้รุ่นที่สิบโดนลอบทำร้ายได้!” เขาเอาแต่โทษตัวเองจนบรรยากาศรอบข้างน่าอึดอัด สึนะจึงพูดบางสิ่งบางอย่างขึ้น
“แต่ฉันในอดีตยังไม่ตายนี่ โกคุเดระคุง อย่าโทษตัวเองเลย” เพราะคำพูดคำเดียวของสึนะ ทำให้คนที่กำลังคลั่งอย่างโกคุเดระถึงกับสงบลงได้...
ต่อมาไม่นาน ตัวยามาโมโตะเองก็ถูกสับเปลี่ยนเช่นกัน...พร้อมๆกับพวกเคียวโกะจังและฮารุที่ถูกส่งมาพร้อมกับแรมโบ้และอี้ผิงในสมัยเด็ก...
หลังจากนั้นเบี้ยงกี้กับฟูตะที่ออกไปหาข่าวก็กลับมา
“ภาพถ่ายจากฮิเบิร์ด?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามจางนินีด้วยความแปลกใจหลังจากที่มองไฟล์รูปบนจอ
“ครับ เราจะใช้ฮิเบิร์ดติดต่อในยามจำเป็นครับ เพราะคุณฮิบาริไม่ชอบสุงสิงกับทางนี้”
“...ก็สมเป็นฮิบาริซังล่ะนะ” เขาถอนหายใจโดยที่ไม่รู้ว่าทำไม อาจจะเป็นเพราะคิดว่าคนๆนั้นยังคงเหมือนเดิมล่ะมั้ง?
พวกเขาออกไปตามพวกเคียวโกะจังที่ออกไปข้างนอกเพราะอยากกลับบ้านของตัวเองโดยที่ไม่รู้ถึงสถานการณ์อันตรายนี้...
“ซาวาดะ พวกเราแยกกัน ยามาโมโตะกับโกคุเดระไปที่ศาลเจ้านามิโมริ” รัลแบ่งงานหลังจากที่ได้รับรายงานจากจางนินีว่ามีความเคลื่อนไหวที่ไม่น่าไว้ใจจากศาลเจ้านามิโมริ
“ครับ!” หลังจากที่แยกกันได้ไม่นาน เด็กหนุ่มทั้งสองก็พบเจอกับศัตรูที่ไม่คาดคิด สายฟ้าฟาด แกมม่า ผู้ที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ของยุคนี้มากกว่าพวกเขามากมายนัก...
ยามาโมโตะกับโกคุเดระเกิดทะเลาะกันเองโดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุผลส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสถานการณ์ตึงเครียดที่ไม่รู้จัก และสถานที่ๆคุ้นเคยแต่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องนี่!
แม้จะร่วมมือกันได้ในตอนท้าย แต่ก็ยังคงแพ้...
เพราะประสบการณ์ไม่เพียงพอ...
และคนที่ปรากฏกายขึ้นนั้นก็คือ...
“นายทำผิดกฏ ที่กล้ามาทำร้ายคนของนามิโมริ” กรรมการคุมกฏที่แสนจะเย็นชาและผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของวองโกเล่
ฮิบาริ เคียวยะ!
แม้สายตาจะมองหาคนที่เขาอยากเห็น แต่ก็ยังไม่เสียสมาธิกับศัตรูตรงหน้า
...อยู่ที่ไหน?...นายอยู่ที่ไหนกัน?...
สึนะโยชิ!
หลังจากปราบแกมม่าลงได้โดยไม่ใช้แหวนวองโกเล่(ในอนาคตโดนทุบทิ้งไปแล้ว) เขาก็ได้พบกับคนที่เขารอ
แซ่กๆ!
“มาสายนะพวกนาย!” แม้จะสบตากันแค่เพียงแวบเดียว แต่เขาก็ได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่คุ้นเคยนั้นแล้ว...ดวงตาของคนที่เขาเฝ้ารอคอยด้วยความอดทนมานาน...
...เพราะคำสัญญา...
...ฉันรู้...นายไม่เคยผิดคำสัญญา...
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆกับตัวเองขณะที่เดินนำหน้าเหล่าเด็กหนุ่มกลับฐานทัพใต้ดิน จริงๆแล้วเขาอยากจะเข้าไปกอดเด็กหนุ่มให้หายอยาก อย่างที่อยากทำมานาน...แต่คงทำไม่ได้...
เพราะสึนะโยชิในตอนนี้ไม่ใช่สึนะโยชิในอนาคตที่เขารู้จักดี...
แต่แค่ได้เห็นหน้าและรู้ว่าเด็กหนุ่มรักษาสัญญา
แค่นั้นก็เพียงพอแล้วจริงๆ...
หลังจากนั้นไม่นานโคลม โดคุโร่ก็ถูกสับเปลี่ยนกับตัวเองในอดีตและถูกส่งมาที่โกคุโยแลนด์
เรียวเฮที่กลับมาจากอิตาลีพร้อมกับพวกวาเรียได้เข้าไปช่วยและพากลับมายังฐานทัพ
...ในที่สุด...
ผู้พิทักษ์ทุกคนก็มารวมกันครบ...
หลังจากที่นภากลับมา!
To be continue to finale part
หลังจากเรื่องราวทุกอย่างจบลงเพราะเบียคุรันโดนกำจัด ก็ถึงเวลาที่พวกเขาควรจะได้ ‘นภา’ ของพวกเขาคืนมา...
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ สึนะโยชิคุง” หลังจากร่ำลาพวกอิริเอะ โชอิจิและสปาน่ารวมไปถึงเหล่าอัลโกบาเลโน่ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาและเบี้ยงกี้กับฟูตะแล้ว
เหล่าเด็กหนุ่มก็กลับอดีตที่สงบสุขของพวกเขาไป...
แล้ว...เหล่าผู้พิทักษ์ในอนาคตที่ควรจะอยู่ก็กลับมา
“แล้ว..”
“สึนะล่ะครับ?” ยามาโมโตะกับโกคุเดระถามแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน โดยที่ฮิบาริยังคงยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านหลัง
โคลมอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้พบกับท่านมุคุโร่ที่เธอเคารพรักในร่างจริงของเขาเป็นครั้งแรก
ถึงแม้จะยังสับสนและงงงวยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเล็กน้อย แต่พวกเขาก็เลือกที่จะทิ้งเรื่องพวกนั้นไว้เบื้องหลัง
เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นแค่แผนที่บอสของพวกเขาวางไว้ ก็แสดงว่า...
“สึนะโยชิคุงกลับมาก่อนพวกคุณเล็กน้อยครับ คิดว่าคงเดินไปดูที่นั่น อีกเดี๋ยวก็คงกลับมาครับ!”
...นายรักษาสัญญาจริงๆด้วย...
ฮิบาริ เคียวยะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากที่เผชิญเรื่องราวมามากมายรวมไปถึงการต้องทำตามแผนที่เจ้านายจอมยุ่งวางไว้ให้หลังจากที่ทำให้เขาใจหายใจคว่ำไปแล้ว...
...หวังว่าพอฉันลืมตา...
...นายจะกลับมายืนตรงนี้แล้วนะ?...
“รุ่นที่สิบครับ ฮือ!” เป็นโกคุเดระคนแรกที่เมื่อเห็นสึนะแล้ววิ่งเข้าไปกอดพลางร้องไห้ ตามมาด้วยยามาโมโตะที่ยิ้มอย่างโล่งอก โคลมที่ยืนซบมุคุโร่ร้องไห้ด้วยความดีใจ อี้ผิง ฟูตะและแรมโบ้ยืนกอดกันร้องไห้ เบียงกี้ยืนยิ้มน้อยๆพลางกอดฮารุและเคียวโกะจังเอาไว้
เด็กหนุ่มยิ้มให้เพื่อนๆเหมือนเคย ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าคนที่เขาคิดว่าคงจะทำให้โกรธมากที่สุด
...คนที่เขาทำร้ายไปมากที่สุดด้วยความจำเป็น...
...ฮิบาริซัง...
“ผมกลับมาแล้วครับ...ฮิบาริซัง” ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตที่คุ้นเคยและรอยยิ้มที่เขาได้รับอยู่เสมอๆ
...สึนะโยชิที่เขารู้จักดี...
...เด็กชายที่เขาคอยมองอย่างสนใจได้กลับมาแล้วตามสัญญา...
ความอดทนของชายหนุ่มหมดลงในวินาทีที่เด็กหนุ่มยิ้มให้ ฮิบาริดึงตัววองโกเล่หนุ่มเข้าไปกอดท่ามกลางเสียงโวยวายของมือขวาอย่างโกคุเดระและเสียงหัวเราะของยามาโมโตะ
“ยินดีต้อนรับกลับนะ...สึนะโยชิ”
เสียงที่แผ่วเบาของชายหนุ่มแว่วในโสตประสาทของสึนะ
...แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...สำหรับตัวเขาในตอนนี้...
แถมรูปที่น่ารักเล็กน้อย หุหุ>0<//
จบแล้วค่า! กับฟิคสั้นๆ การสูญสิ้นของนภาและการกลับมาที่น่ายินดี
จริงๆช่วงนี้บ้ารีบอร์นอยู่เลยแอบอู้ฟิคบลีช (ฮา)
แหมๆ ก็หัวมันตันนี่คะ=3= เอาเป็นว่าอ่านอันนี้แก้เหงาไปก่อนนะ^^
ที่อยากแต่งฉากนี้ก็เพราะรู้สึกว่า ตอนที่หนูทูน่าตายมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากๆ เหมือนทุกอย่างพังลงมาน่ะค่ะ
ก็สมกับที่เป็น 'นภา' นี่คะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ จะดีใจมากถ้าอ่านเเล้วเม้นท์ติ-ชมกันเยอะๆนะคะ ^^
แล้วพบกันใหม่ค่ะ
KuN
ผลงานอื่นๆ ของ Kurosaki_Uchino ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kurosaki_Uchino
"สนุกสุดๆ"
(แจ้งลบ)สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ ... อ่านเพิ่มเติม
สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ อ่านน้อยลง
รุ่นที่1 | 21 เม.ย. 54
7
0
"ทั้งสนุก ซึ้ง"
(แจ้งลบ)เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ อ่านเพิ่มเติม
เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ
otakumamon | 24 เม.ย. 56
3
0
ดูทั้งหมด
"ทั้งสนุก ซึ้ง"
(แจ้งลบ)เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ อ่านเพิ่มเติม
เป็นเรื่องที่สุดยอด บรรยายได้เก่งทำให้ไรเตอร์สามารถจินตนาการตามเรื่องได้อย่างเข้าใจ รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะบอกว่าซึ้งมากๆ สรุปคือสนุกมากค่ะ ^^ ช่วยแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่บรรยายความรู้สึกของวองโกเล่แต่ละคน ก็ใช้คำได้สมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละครนั้นๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน และยังเป็นตัวของตัวละครนั้นๆ
otakumamon | 24 เม.ย. 56
3
0
"สนุกสุดๆ"
(แจ้งลบ)สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ ... อ่านเพิ่มเติม
สนุกมากๆเลยครับ ว่างๆ ก็ลองไปอ่าน นิยาย ของผมบ้างนะครับ เข้าไปที่ มายไอดี สิครับ ^^ ่วยแต่งไปเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตาม น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ^^ http://my.dek-d.com/iaeyasu/ มายไอดีครับๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรื่องนี้ ทำเป็นการ์ตูนจังเลย ครับบ ถึงจะมีบางตอนที่ วายก็เถอะ แต่สนุกจริงครับๆ อ่านน้อยลง
รุ่นที่1 | 21 เม.ย. 54
7
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น